ย่าโม จังหวัดนครราชสีมา
ใครหลายคนคงจะเคยไปไหว้คุณย่าโมและขอพรจากท่าน บางคนเมื่อประสบความสำเร็จแล้ว ก็มักจะไปแก้บนด้วยเพลงโคราช ซึ่งพ่อเพลงแม่เพลงเขาร้องกันอยู่ที่ศาลาไม้บริเวณลานอนุสาวรีย์ย่าโม เพราะคุณย่าโมท่านชอบเพลงโคราช ส่วนแอดมินเคยขอเรื่องเกี่ยวกับงานไว้ พอสำเร็จก็ไปแก้บนด้วยพวงมาลัยดาวเรือง ตอนที่แอดมินรู้ว่าสำเร็จแล้ว คือฝันเห็นรูปอนุสาวรีย์คุณย่าโมท่านลอยมาในฝันบอกเป็นนัยๆ ว่าสำเร็จแล้ว จึงได้ไปแก้บน และก็มีอีกครั้งหนึ่งคือฝันว่าสวดมนต์บทบูชาคุณย่าโม วันนั้นเป็นวันที่จะเดินทางเข้าโคราช การเดินทางของเราก็แคล้วคลาดปลอดภัยดีกันทุกคน ก็ต้องบอกว่าแล้วแต่วิจารณญาณความเชื่อส่วนบุคคล สำหรับแอดมินแล้วก็อุ่นใจทุกครั้งที่ไปโคราชแล้วได้ไปไหว้คุณย่าโมเป็นสิริมงคลให้กับตัวเอง
คุณย่าโมท่านเป็นที่เคารพรักของชาวโคราชและผู้ที่เดินทางมาเยือนเมืองโคราช จะเห็นได้ว่าอนุสาวรีย์ของท่านจะมีผู้คนเดินทางมากราบไหว้อย่างไม่ขาดสายทั้งกลางวันและกลางคืน อนุสาวรีย์ฯ จะอยู่ที่บริเวณคูเมืองฝั่งตะวันตก มีชื่อเป็นทางการว่า “อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี” ที่นั่นเราสามารถหาซื้อธูปเทียน ดอกไม้ น้ำมัน พานบูชา ฯลฯ หรือถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติม เช่น พวงมาลัยดอกดาวเรืองใหญ่ๆ เครื่องหมากพูลราคาไม่แพง ก็ไปที่ตลาดใหม่แม่กิมเฮงอยู่ไม่ไกลกันนัก
สำหรับประวัติของคุณย่าโมโดยคร่าวคือ ในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้เกิดเหตุการณ์เจ้าอนุวงศ์ ผู้ครองเมืองเวียงจันทน์ ได้ก่อกบฎต่อกรุงเทพฯ โดยยกทัพเข้ามาเพื่อยึดเมืองนครราชสีมาและกวาดต้อนเอาผู้คน แต่ด้วยคุณย่าโมและครอบครัวชาวนครราชสีมาได้ต่อต้าน จนเกิดเป็นวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ขึ้น เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ.2369 ทำให้สามารถกอบกู้เมืองนครราชสีมากลับคืนมาได้ในที่สุด ในการนี้ความทราบไปถึง ร.3 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณย่าโม ขึ้นเป็น “ท้าวสุรนารี” เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2370 เมื่อคุณย่าโมอายุได้ 57 ปี
คุณย่าโมถึงแก่อนิจกรรม เมื่อเดือน 5 ปีชวด พ.ศ.2395 อายุเข้าปีที่ 81 เจ้าพระยามหิศราธิบดี (ปลัดทองคำ) สามีของคุณย่าโมได้จัดฌาปนกิจ ณ วัดศาลาลอย ริมฝั่งลำตะคอง และทำกู่บรรจุอัฐิเอาไว้ แต่ต่อมาก็มีการชำรุด พลตรีพระยาสิงหเสนี (สะอาด สิงหเสนี) ขณะนั้นเป็นพระยาประสิทธิศัลการ ข้าหลวงเทศาภิบาล ผู้สำเร็จราชการมณฑลนครราชสีมา ได้ออกทุนส่วนตัวสร้างกู่ขนาดเล็ก 4 เหลี่ยม 4 คูหา มียอดอย่างเจดีย์ ไว้ที่มุมทิศเหนือวัดกลางนครหรือวัดพระนารายณ์มหาราช และอัญเชิญอัฐิจากวัดศาลาลอยมาบรรจุไว้ในปี พ.ศ.2442
ต่อมากู่ดังกล่าวก็ได้ชำรุดทรุดโทรม พระยากำธรพายัพทิศ (ดิศ อินทโสฬส) ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยพันเอกพระเริงรุกปัจจามิตร (ทอง รักสงบ) ผู้บังคับการมณฑลทหารบกที่ 5 พร้อมข้าราชการ คหบดี และประชาชน สละทุนทรัพย์สร้างรูปหล่อท้าวสุรนารีด้วยทองแดงรมดำ ออกแบบโดย ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี อนุสาวรีย์มีความสูง 185 ซม. หนัก 325 กก. ตั้งอยู่บนฐานบรรจุอัฐิของย่าโม แต่งกายเครื่องยศพระราชทานแบบโบราณ นุ่งผ้ายกดอกห่มสไบกรองทอง ตัดผมทรงมหาไทย อยู่ในท่ายืนหย่อนเข่า มื่อซ้ายเท้าสะเอว มือขวากุมดาบปลายชี้ลงพื้น หันตัวไปทางทิศตะวันตก หันหน้าเฉียงไปทางทิศหรดี โดยมีพิธีเปิด 15 มกราคม พ.ศ.2477 แล้วอัญเชิญอัฐิท้าวสุรนารี จากวัดกลางนคร (วัดพระนารายณ์มหาราช) มาบรรจุไว้ในแท่นอนุสาวรีย์ศิลาทราย จารึกที่รื้อออกจากกู่เดิม เอาไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติมหาวีรวงศ์ วัดสุทธจินดา ต่อมาเมื่ออนุสาวรีย์ชำรุด ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงได้ร่วมใจกันสร้างฐานอนุสาวรีย์บรรจุอัฐิท้าวสุรนารี สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2510
นอกจากสถานที่เก็บอัฐิของย่าโมแล้ว ยังมีสถานที่อื่นๆ และโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวในครั้งนั้นด้วย อาทิ จากคำบอกเล่าของพระที่วัดบูรพ์ วัดบูรพ์เคยเป็นบริเวณที่ตั้งทัพของคุณย่าโมก่อนออกศึกไปทางประตูพลล้าน ซึ่งวัดเองก็มีความเก่าแก่ มีพระประธานอายุกว่าสามร้อยปี และที่วัดสามัคคี ก็มีเจดีย์บรรจุอัฐิของทหารที่รบในสงครามเจ้าอนุวงศ์ เป็นต้น.
…….
ภาพและเรื่องโดย สุทธวรรณ บีเวอ อีสานอินไซต์
ขอบคุณข้อมูลจาก
ป้ายบริเวณลานอนุสาวรีย์ย่าโม
พิพิธภัณฑ์เมืองนครราชสีมา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา