Nevers เนอแวร์.. เมืองแห่งเครื่องเคลือบดีบุกยุคโบราณของฝรั่งเศส

Nevers เนอแวร์.. เมืองแห่งเครื่องเคลือบดีบุกยุคโบราณของฝรั่งเศส

* บันทึกนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเส้นทางจักรยาน EuroVelo 6 ในฝรั่งเศส (ตอนที่ 3)

วันที่ 10 ของการเดินทาง เราปั่นจักรยานออกจากเมืองบูร์บง ล็องซี (Bourbon-Lancy) ตามถนน EuroVelo หมายเลข 6 เช่นเดิม

ถนนยังเป็นเส้นเล็กๆ ข้างคลองน้ำ พอหลุดออกจากคลอง ก็พาเราลัดผ่านทุ่งกว้างใหญ่ มองเห็นครื่องจักรรดน้ำที่มีขายาวหลายสิบเมตรในทุ่งเกษตร

มันเป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสลงไปดูใกล้ๆ เจ้าเครื่องนี้คงใช้การเจาะเอาน้ำบาดาลสูบขึ้นไปรดพืช

จากนั้นเราก็ได้ผ่านทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์บ้าง ส่วนใหญ่เลี้ยงวัวเป็นฝูงแบบปล่อยให้หากินหญ้าเองภายในรั้วที่กั้นด้วยลวดหนาม

La ferme หรือ farmhouse บ้านในฟาร์มชนบทแบบโบราณที่ผุผังระหว่างทางจากเมืองบูร์บง ล็องซี ไปเมืองเนอร์แวร์
เจ้าวัวขาวในภาพอาจเป็นพันธุ์ชาร์โรเล่ส์ (Charolais) ฝรั่งเศสทำการผสมพันธุ์วัวอยู่หลายชนิด พันธุ์นี้ใช้เป็นแรงงานดึงลาก(draft work) มาก่อน ทำให้มีขนาดใหญ่ล่ำ ปัจจุบันใช้เนื้อเป็นผลิตภัณฑ์ด้วย
ระบบชลประทานแบบแกนกลาง (center pivot irrigation systems) เป็นที่นิยมทั่วไปในการสูบน้ำบาดาลมารดพืชในพื้นที่กว้าง
ข้างทางผ่านที่เลี้ยงหมู วิธีเลี้ยงเขามองดูคล้ายสปาโคลน มีที่บังแดดให้ หมูสามารถวิ่งเล่นรอบรั้วในพื้นที่กว้างขวางได้ หมูดูมีสุขภาพดีมาก

ตลอดช่วงสามสี่วันที่ผ่านมาอุปสรรคสำหรับการปั่นเริ่มไม่ใช่ฝน เพราะฝนเริ่มหายไปแล้ว สิ่งที่เพิ่มมาคือปุยอะไรก็ไม่รู้ลอยฟุ้งเต็มทางไปหมด เยอะขนาดที่เหมือนกองหิมะน้อยๆ ริมข้างทาง ฝนตกทีก็ซาไปที แล้วก็กลับมาลอยกันใหม่

คิดถึงผ้าพันคอที่เอาไว้ปิดจมูกกันฝุ่นตอนปั่นจักรยาน ซึ่งก็ไม่ได้เอามา เพราะคิดว่ายุโรปไม่มีฝุ่น ที่ไหนได้เจอก้อนใหญ่กว่า หากใครเป็นภูมิแพ้ละอองเกสรเที่ยวยุโรปในช่วงเวลานี้ ควรพกยาแก้แพ้มาด้วย

ริมคลองก่อนถึงเมืองเนอแวร์ร่มรื่นมาก
ปุยนุ่นที่ลอยฟุ้งในยามเดือนพฤษภาคม

เราปั่นมาได้ประมาณ 85 กิโลเมตร ใช้เวลาเกือบแปดชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงเมืองเนอแวร์ เป็นเมืองขนาดกลางที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำลัวร์ เมืองนี้มีคนอยู่ราวหกหมื่นคน

บรรยากาศของเนอแวร์ดูเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่พักคืนนี้เราอยู่ด้านบนของร้านกาแฟ ด้านข้างร้านมีประตูแยกขึ้นบันไดแคบๆ ไปที่ชั้นสองของร้าน

ในบรรดาคนที่มานั่งจิบกาแฟยามบ่ายเห็นเป็นกลุ่มนักปั่นหลายโต๊ะ ผู้คนนั่งอยู่กับวงสนทนาที่มีกาแฟแก้วเล็กๆ วางอยู่ตรงหน้า ร้านนี้คงเป็นที่นิยมมากเพราะอยู่ใกล้แม่น้ำ ลมโกรก มีแสงแดดส่อง ดูสบายๆ

ที่นอนคืนนี้เป็นร้านกาแฟชื่อ Cafe Velo
Bagel เบเกิลมังสวิรัตน์ ใช้ไข่เบเนดิกต์กับอะโวคาโด ราดด้วยน้ำสลัดครีม มีผักขมและมะเขือเทศย่างเป็นเครื่องเคียง ได้รสชาติดีมาก
วัฒนธรรมการปั่นจักรยานและการดื่มกาแฟเป็นของคู่กัน
ห้องพักถูกจัดไว้อย่างสะดวกมาก มีห้องน้ำส่วนตัว ด้านนอกมีห้องครัวพร้อมอุปกรณ์การใช้งานอย่างง่าย เช่น ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า และกาน้ำร้อน การจัดพื้นที่ยังให้บรรยากาศต้อนรับการท่องเที่ยวแบบปั่นจักรยาน ไม่ลืมแม้กระทั่งที่สำหรับแขวนหมวกกันน๊อค

เราเก็บของเสร็จก็ไปเที่ยวกันในเมือง นอกจากถนนหนทางจะมีตึกรามบ้านช่องที่เป็นระเบียบ ก็ยังมีเจ้าปุยนุ่นที่ลอยฟุ้งสร้างบรรยากาศเหมือนเมือง Upside Down ในหนัง Stranger things

ตึกรามบ้านช่องอันสงบแทบไม่มีผู้คนภายในเมืองเนอแวร์
ประตูเมืองโบราณ จุดไฮไลค์ของเมืองที่มีป้ายแนะนำยืนตรงนี้แล้วถ่ายรูป ดังนั้นน่าจะมีคนโพสต์มุมนี้เยอะทีเดียว

เมืองนี้ในอดีตมีการหาอยู่หากินที่น่าสนใจคือ การผลิตเครื่องปั้นดินเผาแบบเคลือบดีบุก เพราะมีทรัพยากรสองอย่างที่สำคัญคือ “ดินขาว” หรือดินเกาลิน (ดินขาวแบบภาคเหนือที่เราเอามาทำเครื่องปั้นดินเผา) หรือแร่เคโอลิไนต์ (Al2Si2O5(OH)4) และ “ช่างชาวอิตาลี”

สำหรับดินเกาลินนั้นจะมีความลื่นคล้ายสบู่และปั้นเป็นก้อนได้ถ้าเปียก ถ้าถูกเผาก็จะแข็งทนทาน เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเครื่องปั้นดินเผาแบบเคลือบดีบุก (tin-glazed earthenware) ฝรั่งเศสเรียก faience

ส่วนช่างชาวอิตารี เข้ามาทำงานที่เมืองนี้จากการชักชวนของดยุก จนทำให้ปี ค.ศ.1580 ถึงต้นศตวรรษที่ 19 เมืองเนอแวร์ได้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญของฝรั่งเศส

ผลิตภัณฑ์เครื่องเคลือบช่วงแรกจะมีสีเดียว ต่อมาได้มีการใช้สีที่หลากหลายเอาอย่างเครื่องปั้นดินเผาจีน

การวาดภาพบนภาชนะ นิยมวาดวิถีชีวิตของชาวฝรั่งเศสในช่วงเวลานั้น ถือเป็นของมีมูลค่าสูง พอมีโอกาสได้เห็นบางส่วนจากนิทรรศการถาวรที่จัดแสดงในพระราชวังดยุกแห่งเนอแวร์ (Palais ducal de Nevers) (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของศาลากลาง สำนักงานนายกเทศมนตรี และหอประชุมสภา)

ภาพวาดจากอีกฝั่งน้ำ มองเห็นเมืองเนอแวร์ชัด
เครื่องปั้นดินเผาที่จัดแสดงในพระราชวังดยุกแห่งเนอแวร์ หรือศาลากลางในปัจจุบัน

การผลิตเครื่องเคลือบดินเผาฝรั่งเศสได้ใช้ธรรมชาติของแม่น้ำในยุคที่ไร้ไฟฟ้าอย่างเป็นประโยชน์ โดยอุตสาหกรรมเหล่านี้จะตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ อาศัยการไหลของแม่น้ำเป็นตัวหมุนเฟือง เพื่อบดดินขาวให้เป็นผงละเอียด ซึ่งดินขาวจะถูกใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำเครื่องเคลือบดินเผาฝรั่งเศส

โรงโม่ดินขาวที่ใช้พลังของแม่น้ำเข้ามาหมุนเฟืองมีหลายโรงด้วยกัน ซึ่งมักตั้งอยู่บริเวณที่แม่น้ำลัวร์กับแม่น้ำเหนียวา(Nièvre) ไหลมาบรรจบกัน ในช่วงรุ่งโรจน์ของการผลิตเครื่องปั่นดินเผา โรงสีหลายโรงถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงโม่ดินแทน แต่อย่างไรก็ดีช่วงต้นศตวรรษที่ 19 กิจการค่อยๆ ปิดตัวลง เมื่อผลิตภัณฑ์จากอังกฤษที่ถูกและดีกว่าเข้ามาตีตลาด แถมไม้ที่เป็นเชื้อเพลิงก็ดันมีราคาสูงขึ้นอีก
การโม่ดินขาวอาศัยกลไกของเพืองและเพลาที่มีแรงแม่น้ำเป็นตัวผลักดันให้เฟืองเคลื่อนที่ ก้อนดินที่แข็งจะถูกบดด้วยหินทรายที่มีความแข็งแกร่ง ทำให้กลายเป็นผงสีขาวละเอียด (ดินขาวที่นี่มีส่วนผสมดีบุก stanniferous enamel) ซึ่งช่างฝีมือใช้เคลือบชั้นสีขาวบนภาชนะดินเผาสีดินธรรมชาติ ดีบุกมีความสามารถในการทนความร้อนได้ถึง 291.39 องศาเซลเซียส ดินขาวหลังเผาจะมีความแข็งและความทนทานมาก

เมื่อการผลิตเครื่องปั้นดินเผากลายเป็นอุตสาหกรรมแล้ว แต่ทว่าการขนส่งสินค้ากลับเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะแม่น้ำลัวร์ไหลเชี่ยวและมีทั้งบริเวณตื้นลึก ซึ่งบางท่าก็อยู่ในบริเวณน้ำตื้น เรือบรรทุกของหนักไม่ได้ จึงต้องขนถ่ายสินค้าไปลงเรือลำอื่นที่ลอยลำรออยู่

หรือบางพื้นที่ก็มีน้ำท่วม บางจุดก็มีสะพานกีดขวาง การเดินทางในแม่น้ำลัวร์ไม่ว่าจะเป็นการเกยตื้นหรือจมน้ำ ก็เลยเกิดขึ้นอย่างเป็นเรื่องปกติ

ทำให้ในอดีตจึงมีการพัฒนาเรือเพื่อให้เข้ากับข้อจำกัดของแม่น้ำ จนเรือที่ได้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และคนขับเรือในแม่น้ำลัวร์ได้ก็ต้องมีความชำนาญมาก

น่าเสียดายว่าในช่วงศตวรรษที่ 20 ศาสตร์นี้กลับกลายเป็นความรู้ที่สูญหาย..

ชายตกปลา ภาพวาดบนจานดินเผาเคลือบดีบุกจากป้ายโฆษณาเมือง
วิถีชาวเมือง การต่อสู้กับสภาพแม่น้ำ โดยมีฉากหลังเป็นเมืองเนอแวร์ ปรากฏอยู่บนภาชนะดินเผาเคลือบดีบุก
เรือกลไฟในอดีต
ภาพการใช้แรงงานวัวของเมืองเนอแวร์ เพื่อชักลากของริมฝั่งแม่น้ำ
แกลเลอรีศิลปิน
ถนนสวยเส้นหนึ่งในเมือง

จากเมืองเนอแวร์ เราจะออกเดินทางต่อไปยังเมือง ลา ชาริติ ซูร ลัวร์ (La Charité-sur-Loire) อยู่ห่างออกไปราว 34 กิโลเมตร

……………………

จบ ตอนที่ 3

อ่านตอนต่อไป ได้ที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7,…

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *