เรื่องโดย สุทธวรรณ บีเวอ
ภาพโดย ทิม บีเวอ
แอดมินได้พยายามแปลอักษรโบราณเรื่องของพระเวสสันดร จากผ้าพระเวส หรือ ผ้าผะเหวด ที่ช่างนายหนูบุญเรือง วาดไว้ในปี พ.ศ.2506 ซึ่งช่างได้ใช้อักษรลาวอธิบาย แต่เนื่องจากเป็นลายมือก็จะต้องทำความคุ้นเคยกับลายมือช่างไปด้วย ประวัติช่างเท่าที่ได้ทราบจากผู้รู้ ท่านเป็นคนลาวที่เข้ามาแต่งงานมีครอบครัวอาศัยอยู่ที่จังหวัดอุบลราชนี ปัจจุบันได้ค้นพบภาพพระเวสจากช่างหนูบุญเรืองเพียง 3 ผืน ซึ่งหนึ่งในสามผืนถูกนำไปจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ในฝรั่งเศส สำหรับผ้าพระเวสผืนนี้ยังคงใช้อยู่ในขบวนแห่บุญพระเวสมาจนถึงปัจจุบัน เสน่ห์ของผ้าพระเวสที่วาดโดยช่างหนูบุญเรืองนี้ จะอยู่ที่ช่างได้วาดเรื่องราวของพระเวสสันดรค่อนข้างละเอียด ตัวละครผู้คนมีชีวิตชีวา มองเห็นวิถีชีวิตชาวบ้านในอีสานสังคมเกษตรกรรมในอดีต รวมถึงบ้านเรือนที่ตกแต่งด้วยลวดลายอีสานโบราณ สัตว์ป่าและสัตว์บ้านต่างๆ ที่วาดลายเส้นเสมือนจริง นอกจากนี้ที่น่าสนใจยังมีการวาดต้นไม้ดอกไม้มีความงดงามและแปลกตา เมื่อทุกอย่างประกอบกันครบทั้งผืน ก็เหมือนกับเรากำลังเดินชมจิตรกรรมฝาผนังในอุโบสถเรื่องพระเวสสันดรกันเลยทีเดียว
สำหรับการแปล แอดมินได้แปลอักษรลาว (บางตัวใช้อักษรธรรมอีสาน) ออกมาเป็นตัวอักษรไทย แต่ยังคงการใส่วรรณยุกต์ไว้ตามการเขียนของลาว(ในตารางช่องซ้ายมือ) เผื่อว่าใครสนใจศึกษาก็จะได้ดูเทียบเคียงกับความหมายของคำไทยได้ และถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดโดยแอดมิน ผู้อ่านก็สามารถรู้ได้ง่าย(ฮา) ก็หวังว่าผู้อ่านคงจะได้ความเพลิดเพลินใจกับภาพวาดจากผ้าพระเวสผืนนี้ และไปเที่ยวชมเทศกาลงานบุญพระเวสหรือบุญมหาชาติ ที่ภาคอีสาน ซึ่งแต่ละวัดจัดไม่ตรงกัน และไม่ใช่จัดทุกวัด แต่ก็จะอยู่ในช่วงตั้งแต่ปลายกุมภาพันธ์ จนไปถึงสงกรานต์เลยทีเดียว (แล้วแต่ว่าวัดกับชุมชนจะเลือกวันไหน บางทีเขาก็เอาไปควบรวมกับบุญอื่น เพื่อความสะดวกก็มี)
สำหรับท่านใดต้องการอ่านประเพณีบุญผะเหวดอีสานโดยละเอียดว่าเขาทำกันอย่างไร เชิญติดตามคลิ๊กได้ ที่นี่ (หัวข้อ บุญผะเหวด: พิธีกรรมแบบอีสานและมงคลแห่ง “น้ำ” ในที่ราบสูงโคราช ณ วัดบ้านลาน ขอนแก่น)
1. พยาอีนประทานพอนทิบ ๑๐ ประกานให้แก่เมียแล้วว่าให้ลงมาเกิดเมืองมะนุษเป็นแม่พละเว็ษสันดอนซาดกในโลก | พญาอินทร์(พระอินทร์) ประทานพรทิพย์ 10 ประการ ให้แก่เมีย แล้วว่าให้ลงมาเกิดเมืองมนุษย์เป็นแม่พระเวสสันดรชาดกในโลก |
2. เมก | เมฆ |
3.บ่อนนี้ชั้นดาวะดิง | ที่นี่ชั้นดาวดึงส์ |
4.พละเว็ด-มัดที | พระเวส มัทรี |
5.นางบุษะดีกับกันหาซาลีหลาน | นางผุสดี(นางบุษดี) กับ กัณหาชาลี หลาน |
6.พยาบูลม | พญาบรม |
7.เสนาทิบํดีทัง ๔ | เสนาธิบดีทั้ง 4 |
8. กีบฝ่า | กลีบเมฆ |
9. ตำหลวดพูทอนลักสาวังพะนะคอนเมืองแก้วปะเซใซ | ตำรวจภูธรรักษาวังพระนครเมืองแก้วประเชไช |
1. นางสนม คนใซ้ | นางสนม คนใช้ |
2. นี้เมืองแก้วประเซใซ | ที่นี่คือเมืองแก้วประเชไช |
3. ทัษะพอนกันที่ ๑ มี ๑๙ พละคา จบแต่เท้านี้แล | ทศพร กัณฑ์ที่ 1 มี 19 พระคาถา จบแต่เท่านี้แล |
1. ผู้ใดสนใจบํฮู้เฮื้องขํให้ดูตามหลักๆ นี้ คือหมายตามผูกตั้งแต่ทัษะพอนกันที่ ๑ หิมะพานกันที ๒ ตลอดฮอดนะคอนกันที่ ๑๓ จบเฮื้องพละเว็ษสันดอน | ท่านใดสนใจไม่รู้เรื่องขอให้ดูตามหลักๆ นี้ คือ หมายตามผูกตั้งแต่ทศพรกัณฑ์ที่ 1 หิมพานต์กัณฑ์ที่ 2 ตลอดจนถึงนครกัณฑ์ กัณฑ์ที่ 13 จบเรื่องพระเวสสันดร |
2. นางมัดทีกับท้าวซาลีนางกันหา | นางมัทรีกับท้าวชาลีนางกัณหา |
3. อันนี้สาลาทานของพยาเว็ดสันดอน | อันนี้ศาลาทานของพระเวสสันดร |
1. หิมมะพานกันที่ ๒ พยาเว็ษกำลังตลวดน้ำทานซ้างแก้วเผือกให้พามะนาจานทังแปดแล | หิมพานต์กัณฑ์ที่ 2 พระเวสสันดรกำลังกรวดน้ำทานช้างแก้วเผือกให้พราหมณาจารย์ทั้ง 8 แล |
-ไม่มีแปล-
1. พามะนาจานทังแปดขํซ้างนำพยาเว็ดสันดอนใด้แล้ว เขามีความซึ้นใจ เขากํฮองลำทำเพง ใปตามอะนุมัดไจ หิมะพาน กันสองจบแต่เพียงนี้ | พราหมณาจารย์ทั้งแปดขอช้างพระเวสสันดรได้แล้ว เขาก็มีความดีใจมาก เขาก็ร้องรำทำเพลง ไปตาม xxx หิมพานต์ กัณฑ์ 2 จบแต่เพียงนี้ |
ทานะขันผูกสามพามะนาจานทัง ๔ ขอม้าออกจากฮดนำพยาเวสสันดอนได้แล้ว ขี่เมือเมืองเขาแล | ทานกัณฑ์ กัณฑ์ที่ 3 พราหมณาจารย์ทั้ง 4 ขอม้าออกจากรถกับพระเวสสันดรได้แล้ว ขี่กลับเมืองเขาแล |
พยาเว็ดสันดอนกำลังตลวดน้ำทานลดม้าไห้พามมะนาจานทัง ๔ | พระเวสสันดรกำลังกรวดน้ำทานรถม้าให้พราหมณาจารย์ทั้ง 4 |
1. พยาเว็ดสันดอนกำลังตลวดน้ำทานฮดมั่งคำให้พามมะนาจานทังสอง | พระเวสสันดรกำลังกรวดน้ำทานรถละมั่งทองคำให้ พราหมณาจารย์ทั้งสอง |
2. อันนี้พยาอีนลงมา[missing]เป็นละมั่งคำมาเทียมซูเอาฮดพยาเว็ดเข้าไปสู่คิลีวงกด แล้วกับขึนใปบนสวันของเก่า | อันนี้พระอินทร์ลงมา[missing]เป็นละมั่งทองคำมาเทียมรถพระเวสสันดรเข้าไปสู่เขาวงกต(คีรีวงกต) แล้วกลับขึ้นไปบนสวรรค์เช่นเดิม |
วันนะพละเว็ดกันที ๔ พยาเว็ดสันดอนกำลังพาเมียและลูกเดินป่าเข้าไปสู่คิลีวงกด | วนประเวศน์ กัณฑ์ที่ 4 พระเวสสันดอนกำลังพาเมียและลูกเดินป่าเข้าไปสู่เขาวงกต(คีรีวงกต) |
1. วันนะพะเว็ดกันปายจบแต่เพียงนี้ | วนประเวศน์กัณฑ์ปลาย จบแต่เพียงนี้ |
2. พยาเว็ดสันดอนเดินทางมาถึงเมืองเจ็ดตะลาด เสนาเมืองเจ็ดตะลาดเข้ามานิมนยู่ ท้านกํใม้ยู่ เพระมันใก้เมืองพํ | พระเวสสันดรเดินทางมาถึงเมืองเจตราช เสนาเมืองเจตราชเข้ามานิมนต์อยู่ ท่านก็ไม่อยู่ เพราะมันใกล้เมืองพ่อ |
3. อันนี้เมืองเจ็ดตะลาดแล | อันนี้เมืองเจตราชแล |
1. ซูยซักะกันที ๕ พามสั่งเมียว่าซิไปหา ..(ขอย?) ยิง ..(ขอย?) ชายมาไห้เมียแก | ชูชก กัณฑ์ที่ 5 พราหมณ์สั่งเมียว่าจะไปหาx หญิง xชายมาให้เมียแก |
1. เมืองกะลิงคะฮาดยู่ที้นี้แล | เมืองกะลิงคราชอยู่ที่นี่แล |
2. พวกนางพามนู่มทังหลายดานางอะมิตตะตายู่สะน้ำ | พวกนางพราหมณ์ x ทั้งหลายด่านางอมิตตดาอยู่สระน้ำ |
3. สะน้ำโบกขา | สระน้ำโบกขรนี* (*อาจจะเป็น โบกขา = โบกขรนี) |
1. นายพานเจตตะบุดว่าจะยิงพามวาแม่นเนื้อตางๆ จบซูยซักกะ กันที่ ๕ | นายพรานเจตบุตรว่าจะยิงพราหมณ์นึกว่าเป็นสัตว์ต่างๆ จบชูชกกัณฑ์ที่ 5 |
1. จุนละพนกันที ๖ นายพานเจ็ดตะบุดซี้บอกทางพามใปหาพยาเว็ดสันดอน | จุลพนกัณฑ์ที่ 6 นายพรานเจตบุตรชี้บอกทางพราหมณ์ไปหาพระเวสสันดร |
พามขํนอนนำพละลึสีนาลอดแล มะพนกันที้ ๗ | พราหมณ์ขอนอนกับพระฤาษีนารอดแล มหาพน กัณฑ์ที่ 7 |
พละลึสีนาลอดซี้บอกทางพามใปหาพละเว็ดสันดอน จบมะหาพน กัน ๗ | พระฤาษีนารอดชี้บอกทางพราหมณ์ไปหาพระเวสสันดร จบมหาพน กัณฑ์ 7 |
1. ทีนี้แม่นอาสมบดสาลาของพละเว็ดสันดอน | ที่นี่คืออาศรมบทศาลาของพระเวสสันดร |
2. กุมมานกันที ๘ พละเว็ดสันดอนกำลังตลวดน้ำทานลูกให้พามมะโน | กุมารกัณฑ์ที่ 8 พระเวสสันดรกำลังกรวดน้ำทานลูกให้พราหมณ์ |
3. นกอินซี | นกอินทรีย์* (*ภาพคือ นกหัสดีลิงค์) |
1. มัดทีงมหาลูก | มัทรี งม หา ลูก |
2. สะพังวังโบกขาละนีของพละเว็ดสันดอน | สะพังวังโบกขรนีของพระเวสสันดอน |
3. กันหาซาลีลี้ยู่สะดอกบัว | กัณหาชาลีซ่อนอยู่สระดอกบัว |
4. บั้นนางตายคึดฮอดลูก ผัวเป่านำคึน | ตอน นางตายเพราะคิดถึงลูก ผัวเป่าให้ฟื้น |
5. บั้นนางคึนมายอมึอะนุโมทะนาทานลูกดอมผัว | ตอน นางฟื้นมา ยกมือไหว้อนุโมทนาทานลูกของผัวด้วย |
6. สีโห | สีโห |
1. มัดทีกันที ๙ จบ | มัทรี กัณฑ์ที่ 9 จบ |
2. ไม้ไล่และไม้บง | ไม้ไล่และไม้บง* (*เป็นไม้ไผ่ป่าไม่มีหนามใช้สานกระติบ เครื่องจักสาน) |
3. นางมัดทีไปหาลูกไม้พ้อลาซะสี เสือโคง เสือเหลือง ตันไว้บํไห้เมือ | นางมัทรีไปหาผลไม้เจอราชสีห์ เสือโคร่ง เสือเหลือง ขวางทางไว้ไม่ให้กลับ |
4. กันหาซาลีหลูดจากมึพาม แล่นคึนเมือลี้สะดอกบัว | กัณหาชาลีหลุดจากมือพราหมณ์วิ่งกลับไปซ่อนในสระบัว |
5. กุมมานกันปายจบ พามล้มเทิงผา | กุมารกัณฑ์ปลายจบ พราหมณ์ล้มบนผา |
6. เสือโคง | เสือโคร่ง |
1. อันนี้พยาทอนชมดอกนาลียู่ดอยเขาวงกด | อันนี้พญาธรชมดอกนารีผลอยู่ดอยเขาวงกต |
2. ดอยวงกด | ดอยวงกต |
1. สักกะบันกันที ๑๐ พละเว็ดสันดอนกำลังตลวดน้ำทานเมียให้แก่อินทาสักกะพาม | สักกบรรพ กัณฑ์ที่ 10 พระเวสสันดอนกำลังกรวดน้ำทานเมียให้แก่พราหมณ์พระอินทร์ (อินทราสักกพราหมณ์) |
2. พละอีนลงมาแปงเพ็ดเป็นพามมาขํเมียนำพละเว็ดสันดอนแล้วกับขึ้นไปบนสวันของเก่า | พระอินทร์แปลงกาย(แปลงเพศ) เป็นพราหมณ์มาขอเมียกับพระเวสสันดร แล้วกลับขึ้นไปบนสวรรค์เช่นเดิม |
มะหาลาดกันที่ ๑๑ วิสุกำมะเทวะบุดลงมาแปงเพดเป็นพละเว็ดมัดทีมาส่งนมให้กันหาซาลีในลาวเที้ยงคืน เทวะดาอง ๑ ลักสายู่ตลอดแจง | มหาราชกัณฑ์ที่ 11 วิสุกรรมเทวบุตรลงมาแปลงกายเป็นพระเวสสันดรและนางมัทรีให้นมกัณหาและชาลีในราวเที่ยงคืนเทวดาองค์หนึ่งรักษาอยู่จนเช้า |
จะลาจอนต้อนเอากันหาซาลีนำพามเอาเขาใปถวายพยาบูลมแล | จราจรต้อนเอากัณหาชาลี นำพราหมณ์เอาเข้าไปถวายพญาบรมแล |
พยาบูลมไต่สวนถามพามว่าเดก ๒ คนนี้เอามาจากทีใด | พญาบรมไตร่สวนถามพราหมณ์ว่า เด็ก 2 คนนี้เอามาจากที่ใด |
1. เสนาทิบํดีทัง ๔ | เสนาบดีทั้ง 4 |
2. ตำหลวดพูทอนลักสาวังพะนะคอนเมืองแก้วปละเซใซ | ตำรวจภูธรรักษาวังพระนครเมืองแก้วประเชไช |
3. พวกผู้ยีงพนละเมืองใปเลี้ยงเข้าพามแล | พวกผู้หญิงพลเมืองไปเลี้ยงข้าวพราหมณ์แล |
4. บ่อนนี้ท้องพามแตก พวกหมํยาหลวงกำลังหายาปัวยู่ | ที่นี้ ท้องพราหมณ์แตก พวกหมอยาหลวงกำลังหายารักษาอยู่ |
5. หมํบีบ | หมอบีบ |
6. หมอเป่าน้ำ | หมอเป่าน้ำ |
7. หมอยาใหย่ | หมอยาใหญ่ |
8. อันนี้บ่อนพามลับบํลิโพกอาหานของทานพยาบูลมเลี้ยงแล | ที่นี่พราหมณ์รับบริโภคอาหารของพญาบรมเลี้ยงแล |
1. หามพามไปทิ้งป่าซ้า | หามพราหมณ์ไปทิ้งป่าช้า |
1. หว่านเข่าตอกแตก | หว่านข้าวตอกแตก |
2. จูดพามยู่หนีแล | เผาพราหมณ์อยู่นี่แล |
3. ซุฟืน | เอาฟืนใส่ |
1. มหาลาดกันที ๑๑ จบแต่เพียงนี้แลท้านเฮย | มหาราชกัณฑ์ที่ 11 จบแต่เพียงเท่านี้แลท่านเฮย |
2. พวกนี้เสนาบํดีทัง ๔ เนอะท้าน | พวกนี้เสนาบดีทั้ง 4 ..(เนอะ?)ท่าน |
3. ผู้นี้พยาบูลม | คนนี้พญาบรม |
4. ผู้นี้นางบุษะดี | คนนี้นางผุสดี |
5. มะหาดเล๊ก | มหาดเล็ก |
1. สักกะติกันที ๑๒ จบพยาบูลมกำลังเซินพละเว็ดสันดอนเข้าเสวยเมือง | ฉกษัตริย์ กัณฑ์ที่ 12 จบ พระบรมกำลังเชิญพระเวสสันดอนเข้าครองเมือง |
2. ซ้างตัวนี้ซือว่าเอกนะคอนสี แม่นางบุษดีกับนางกันหา ขี่เมอท้านเฮย ฯ | ช้างตัวนี้ชื่อว่า เอกนครศรี แม่นางผุสดีกับนางกัณหาขี่กลับ ท่านเฮย |
1. ซ้างตัวนี้ว่าพะจันลึบเมก พยาบูลมกับท้าวซาลีขี่เมือท้านเฮย | ช้างตัวนี้ชื่อพระจันทร์ลับเมฆ พญาบรมกับชาลีขี่กลับ ท่านเฮย |
2. ซ้างตัวนี้ชื่อว่าซ้างเผือกพายวัน พยาเว็สกับนางมัดทีขีแล | ช้างตัวนี้ชื่อช้างเผือกพลายวัน พระเวสกับนางมัทรีขี่แล |
1. พวกนี้ถือผาลากับดาบ | พวกนี้ถือหอกกับดาบ |
2. กินเหล่า | กินเหล้า |
1. นะคอนกันที ๑๓ จบแต่เท้านี้แล | นครกัณฑ์ที่ 13 จบแต่เท่านี้แล |
1. หมํลำใหย่ | หมอลำใหญ่ |
2. สาทุผู้ข่าซึว่าท้าวนายฮอยมาบ้านท่าซะโนใด้พ้อมบุดพ [missing] ละยายีงซายน้อยใหยทุกคนสางฮูปพาบพละเว็ดสันดอนซาดก ใว้ในพละพุดทะสาษะน่า แต่เมื้อ พํสํ ๒๕๐๖ ปีเถาะ ขํ[missing] ฝูงข่าใด้บุนมากๆ กํข่าเทิน นิพานะปัดจะโยโหตุ ใด้สะละชับออกทุนเป็นเงิน… กีบสำเหล็ด | สาธุ ข้าพเจ้า(ผู้ข้า) มีชื่อว่า ท้าวนายฮอยมา บ้านท่าซะโน ได้พร้อมบุตร [missing] และ x หญิงชายน้อยใหญ่สร้างรูปพระเวสสันดรชาดก ไว้ในพระพุทธศาสนา แต่เมื่อ พ.ศ.2506 ปีเถาะ ขอ[missing] ฝูงข้าได้บุญมากๆ แก่ข้าเทอญ นิพพานปัจจะโย โหตุ* ได้สละทรัพย์ออกทุนเป็นเงิน…. กีบสำเร็จ *นิพพานปัจจะโย โหตุ = จงเป็นปัจจัยแห่งพระนิพพาน |
3. ข่าพะเจ้าท้าวหนูบูนเฮืองเป็นผู้วาดเขียน ขอส่วนบุนนำด้วย | ข้าพเจ้าท้าวหนูบุญเฮือง(หนูบุญเรือง) เป็นผู้วาดเขียน ขอส่วนบุญร่วมด้วย |